รีวิว ไวน์ เครื่องดื่มคุณภาพระดับสูง คู่ควรแก่การสะสม

ไวน์ เป็นอีกหนึ่งของสะสม ที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มแสนอร่อย หากสะสมยี่ห้อชั้นดี จะให้ผลตอบแทนเป็นอย่างมาก มีนักลงทุนหลายท่าน หรือผู้ที่ชื่นชอบการสะสม ต่างให้ความสนใจ ในการเลือกที่จะสะสม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเภทนี้

ที่มา ไวน์ (Wine) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีมูลค่าสูง ทำจากองุ่น

ซึ่งประวัติความเป็นมาของ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทนี้ ไวน์ [1] เกิดจากการหมักองุ่น และยีสต์จะทำการกัดกินน้ำตาล เพื่อที่จะคลายเอทนอล คาร์บอนไดออกไซต์ และความร้อนออกมา ซึ่งองุ่นหลายสายพันธุ์ และยีสต์ เป็นปัจจัยที่ทำเครื่องดื่มประเภทนี้ มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

การเริ่มผลิต ไวน์ มีข้อมูลบอกว่า มีการผลิตมานานหลายพันปี ซึ่งมีการพบหลักฐานอันเก่าแก่ที่สุด ของการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทนี้ เกิดขึ้นในยุคโบราณของจีน ค.ศ. 7000 ก่อนคริสตกาล, ในจอร์เจีย ค.ศ. 6000 ปีก่อนคริสตกาล, เปอร์เซีย ค.ศ. 5000 ปีก่อนคริสตกาล และอิตาลี ค.ศ. 4000 ปีก่อนคริสตกาล

เครื่องดื่มประเภทนี้ มีบทบาทสำคัญในด้านศาสนา หากเป็นไวน์แดง จะมีความเกี่ยวข้องกับเลือดของชาวอียิปต์ และถูกนำมาใช้สำหรับบูชาเทพเจ้า ไดอะไนซัส ของชาวกรีก ชาวโรมันจะนำมาใช้ในงานฉลอง ที่มีชื่อว่า แบคัสนาเลีย ของศาสนายูดาห์

ซึ่งวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับ ไวน์ ไม่ว่าจะเป็นอียิปต์โบราณ กรีก โรมัน หรืออิสราเอล ยังมีความเชื่อมโยงถึงรากเหง้า และยังเป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งหลายประเทศ ยกให้เป็นมรดกตกทอด และยกให้เป็นเครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับประเพณีปลูกองุ่นทางตะวันตก ของสหรัฐอเมริกา

การแบ่งประเภทของ ไวน์ ตามวิธีการผลิต

ในปัจจุบัน ท่านอาจจะพบเห็น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทนี้ หลากหลายแบรนด์ ตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าชั้นนำทั่วไป แต่รู้หรือไม่ ว่าเครื่องดื่มนี้ มันมีการแบ่งประเภทเอาไว้ชัดเจน ซึ่งจะแบ่งตามวิธีผลิต เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก ประเภทของ Wine หลัก ๆ มีดังนี้

1. ไวน์แดง หรือ Red Wine มันมีสีแดงเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เครื่องดื่มเป็นสีนี้ เกิดจากการเติมเปลือกองุ่น, ขั้วองุ่น, เมล็ดองุ่น ในกระบวนการหมัก ที่อยู่ในอุณหภูมิสูง เพื่อสกัดเอาสี และรสชาติที่ฝาดออกมานั่นเอง
2. ไวน์ขาว หรือ White Wine เกิดจากการนำองุ่นแดง โดยแยกเปลืองที่มีเม็ดสีแดงออกมา เหลือเพียงแค่น้ำองุ่นนำไปผลิตเป็นเครื่องดื่มประเภทนี้ ซึ่งโดยปกติแล้ว จะมีรสชาติเปรี้ยวเป็นจุดเด่น หรือบางยี่ห้อจะมีรสชาติออกเปรี้ยวหวาน สดชื่น ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการผลิต
3. ไวน์โรเซ่ หรือ (Rose Wine) เป็นเครื่องดื่มที่มีสีสวยงาม ซึ่งสีของมันได้มาจาก กระบวนการหมักเปลือกองุ่นแดง ที่ทิ้งให้สัมผัสกับน้ำองุ่นในช่วงเวลา 12-36 ชั่วโมง สีเลยออกมาเหมือนกับดอกกุหลาบ และอีกหนึ่งวิธีการผลิต โดยนำไวน์แดง และไวน์ขาว มาผสมเข้าด้วยกัน
4. ไวน์หวาน หรือ Dessert Wine ซึ่งเป็น ไวน์ ที่มีความแตกต่างจากตระกูลนี้ จะใช้องุ่นที่สุกคาต้นไว้ 1-2 เดือน เพื่อให้มันโดนแดด โดนลม จนลูกองุ่นมีความคล้ายลูกเกด และทำการคั้นน้ำออกมา ซึ่งจะนิยมเสิร์ฟคู่กับขนมหวาน บางประเทศ นิยมดื่มเพื่อเรียกน้ำย่อย ก่อนรับประทานอาหาร
5. สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่มีสไตล์เด่นชัด ด้วยรสสัมผัสที่ซ่า และมีฟอง ซึ่งเกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากกระบวนการหมักตามธรรมชาติ หรือบางยี่ห้อเติมเข้าใจในกระบวนการหมัก และยังมีการแบ่งย่อยออกมาตามพื้นที่

ที่มา : "ไวน์" มีกี่ประเภท? [2]

อยากเริ่มสะสม ไวน์ ต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง?

หลายท่านอาจยังไม่รู้ ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทนี้ ได้รับความนิยมในการสะสม หรือเรียกว่าการลงทุนสะสมยี่ห้อชั้นดี ซึ่งให้ผลตอบแทนมากถึง 16% ผลสำรวจในปี 2021 และได้รับรางวัลของสะสม ที่ให้ผลตอบแทนสูง ควบคู่กับนาฬิกา ตามรายงานของ Knight Frank ของตลาดไวน์มาตรฐาน Liv-ex [3]

การตลาดของ Live-ex Fine Wine 100 เป็นที่ต้องการมากที่สุด 100 รายการทั่วโลก ซึ่งมีตัวเลขสรุปออกมา เป็นผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2022 จึงทำให้การสะสมไวน์ เป็นสิ่งที่น่าลงทุน และน่าสนใจเป็นอย่างมาก และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย วิธีการผลิตที่มีข้อจำกัดลดลง ทำให้สะสมง่ายขึ้น

สิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกลงทุนกับ เครื่องดื่มประเภทนี้ คือการให้ความสำคัญกับวินเทจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับปีที่เก็บเกี่ยวองุ่น และปีในการผลิต รวมไปถึงการผลิตในแต่ละภูมิภาค เช่น ไวน์เบอร์กันดีจะมีประสิทธิภาพดีกว่า S&P 500 ในขณะที่บอร์กโดซ์ มีประสิทธิภาพเหนือกว่า S&P 500 ในช่วงปี 2005-2019

การสะสม ไวน์ ไม่ต่างจากการสะสมของเล่น หรือของสำคัญประเภทอื่น ๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับราคาความต้องการ อุปสงค์และอุปทานของตลาด บางประเภทมีการผลิตน้อย แต่รสชาติดี ก็จะทำให้มีราคาที่สูง เช่น Domaine de la Romanée-Conti เกิดจากที่มีไร่องุ่นขนาดเล็ก ผลิตไวน์เบอร์กันดีประมาณ 450 ลังต่อปีเท่านั้น

จัดอันดับ 5 ไวน์ ที่สายสะสมไม่ควรพลาด

การสะสมเครื่องดื่มประเภทนี้ ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน นอกจากจะใช้ในการประกอบมื้ออาหาร หรือใช้ในการสร้างความบันเทิง ยังเป็นศาสตร์อีกหนึ่งแขนงหนึ่ง ด้วยรสชาติและกลิ่นสัมผัส ที่จะขึ้นอยู่กับการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการหมักบ่มในถังไม้โอ็ค ทำให้มีการจัดอันดับการสะสม ไวน์ เกิดขึ้น

1. PENFOLDS MAX’S SHIRAZ ถูกยกให้เป็นเครื่องดื่มอันดับหนึ่ง ในการสะสมสำหรับมือใหม่ ซึ่งมาคาเริ่มต้นที่ไม่แพง เพียงแค่ 1,200 บาทต่อหนึ่งขวดเท่านั้น มาพร้อมกับรสชาติที่นิ่ง ออกไปทางหวาน กับรสชาติของเบอร์รี่ เหมาะสำหรับการดื่มทุกโอกาส
2. BARON เป็นเครื่องดื่มระดับพรีเมียม เพราะนำเข้าจากทางฝรั่งเศส เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาตินุ่ม ดื่มง่าย สีของเนื้อจะเป็นสีแดงอมม่วง และมีกลิ่นเผ็ดเล็กน้อย ราคาเริ่มต้น 1,705 ต่อหนึ่งขวด
3. Royal DeMaria นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่ม ที่มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน ที่ทำให้ผู้ปลูกเสียต้นทุนในการปรับสภาพพื้นที่ เก็บเกี่ยวเฉพาะองุ่น ที่ถูกแช่แข็งจากธรรมชาติเท่านั้น จึงทำให้มันมีราคาแพง และน่าสะสมเป็นอย่างมาก
4. Chateau d’Yquem 1787 ไวน์ขาวที่มีรสชาติเบา ๆ ดื่มด่ำไปกับการดื่มที่มีกลิ่นอบอวล ซึ่งทำจากองุ่นขาว เป็นเครื่องดื่มโบราณ ที่ผลิตโดย Chateau d’Yquem เป็นเครื่องดื่มที่ทำลายสถิติกินเนสส์เวิลด์เร็กคอร์ด เป็นไวน์ขาวที่ทรงคุณค่า มาพร้อมกับราคา 90,000 เหรียญ
5. Pinot Noir ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส มีความหมายว่าพวงองุ่น ซึ่งผลิตในประเทศปิโนต์นัวร์ มีรสชาติที่ดีที่สุด และจำหน่ายในราคาที่สูง จากประสบการณ์ในการผลิตมานาน จึงทำให้เป็น ไวน์ ที่มีความอร่อย และเป็นที่รู้จักกันในสายนักดื่ม และนักสะสม

ที่มา : 5 อันดับไวน์ยอดนิยมที่นักสะสมไวน์ห้ามพลาด [4]

รีวิว 10 อันดับ ไวน์ ที่มีราคาสูง และได้รับความนิยมในไทย

รสนิยมในการสะสม Wine ซึ่งนอกจากจะได้รับความนิยมในต่างประเทศแล้ว ในประเทศไทยของเรา ก็ยังมีนักสะสม และนิยมสะสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง บางยี่ห้อตีราคาสูงกว่าหลักล้าน ในวันนี้ เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จัก 10 อันดับ ไวน์ ที่แพงที่สุดในไทย

1. Domaine Leroy Musigny Grand Cru ราคาเบื้องต้นในการซื้อขาย 1,520,249 บาท ในปี 2007
2. Chateau Lafite Rothschild Pauillac (Premier Grand Cru Classe) ราคาเบื้องต้นในการซื้อขาย 943,509 บาท ในปี 1874
3. Domaine G. Roumier Musigny Grand Cru ราคาเบื้องต้นในการซื้อขาย 914,852 บาท ในปี 2020
4. Domaine de La Romanee-Conti Romanee-Conti Grand Cru ราคาเบื้องต้นในการซื้อขาย 886,149 บาท ในปี 2019
5. Egon Muller - Scharzhof Scharzhofberger Riesling Trockenbeerenauslese ราคาซื้อขายเบื้องต้น 516,478 บาท ในปี 2018
6. Domaine du Comte Liger-Belair La Romanee Grand Cru Monopole ราคาซื้อขายเบื้องต้น 395,755 บาท ในปี 2019
7. Henri Jayer Echezeaux Grand Cru ราคาซื้อขายเบื้องต้น 314,584 บาท ในปี 2000
8. Domaine Coche-Dury Corton-Charlemagne Grand Cru ราคาซื้อขายเบื้องต้น 217,008 บาท ในปี 2010
9. Domaine Jean-Louis Chave Ermitage Cuvee Cathelin ราคาซื้อขายเบื้องต้น 237,503 บาท ในปี 1998
10. Domaine Bizot Echezeaux Grand Cru ราคาซื้อขายเบื้องต้น 208,908 บาท ในปี 2010

ที่มา : เปิด 10 อันดับไวน์ราคาแพงในไทย [5]

สรุป ไวน์

หากท่านเป็นสายดื่ม หรือเป็นนักดื่มทุกสังเวียน และอยากลองสะสมสิ่งของที่มูลค่า ขอแนะนำเครื่องดื่มสุดแสนจะอร่อยประเภทนี้ ที่ท่านสามารถสะสมได้ง่าย แถมยังให้ผลตอบที่ที่ดีที่สุดอีกด้วย

อ้างอิง

[1] วิกิพีเดีย. (October 12, 2023). ไวน์. Retrieved from th.wikipedia

[2] WINE-NOW. (August 14, 2019). "ไวน์" มีกี่ประเภท?. Retrieved from th.wine-now

[3] LIV-EX. (2024). Global wine market. Retrieved from liv-ex

[4] BWS. (July 14, 2021). 5 อันดับไวน์ยอดนิยมที่นักสะสมไวน์ห้ามพลาด. Retrieved from buywinespirits

[5] กรุงเทพธุรกิจ. (March 5, 2024). เปิด 10 อันดับไวน์ราคาแพงในไทย. Retrieved from bangkokbiznews