หุบเขาโมนูเมนต์ (Monument valley) หรือ หุบเขาอนุสาวรีย์ พื้นที่กว้างใหญ่กว่า 92,000 เอเคอร์ ไปเต็มไปด้วยสันเขา ซากหิน และทะเลทรายสีแดง ที่เคยปรากฏอยู่ใน ภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง ซึ่งข้อมูลการท่องเที่ยว ทั้งประวัติ จุดไฮไลต์ รวมถึงการเดินทาง มีรายละเอียดดังนี้
รู้จัก หุบเขาโมนูเมนต์ ตั้งอยู่ที่ไหน
หุบเขาโมนูเมนต์ ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อ 2 รัฐของอเมริกา คือ ระหว่างรัฐยูทาห์ และรัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นภูมิประเทศทะเลทราย โดยอยู่ห่างจาก แกรนด์แคนยอน ทางตอนใต้ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 285 กม. และเมืองคาเยนตา อยู่ใกล้ที่สุด ห่างออกไปราว 45 กม.
ประวัติ หุบเขาโมนูเมนต์ เป็นมายังไง
![หุบเขาโมนูเมนต์](https://pgslot.qa/wp-content/uploads/2024/05/หุบเขาโมนูเมนต์.รอง1.webp)
หุบเขาอนุสาวรีย์ เป็นพื้นที่ในเขตปกครองตนเอง ของชนพื้นเมืองนาวาโฮ ชนเผ่าอเมริกันอินเดียนที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งชาวนาวาโฮเรียกกันว่า “Tse'Bii'Ndzisgaii” โดยนักธรณีวิทยา อาจว่าสถานที่นี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 250 ล้านปีก่อน ซึ่งเดิมทีเคยเป็นแหล่งน้ำมาก่อน
จนเมื่อถึงราว 70 ล้านปีก่อน บริเวณถูกยกขึ้นสูง จากการดันของเปลือกโลก ส่งผลให้จากทะเลกลายเป็นที่ราบ และชั้นดินถูกกัดเซาะ จากลมและน้ำ จนปรากฏเป็นแท่งหิน หรือสันเขารูปทรงต่างๆ ดังเช่นปัจจุบัน [1] ซึ่งมีข้อมูลบ่งชี้ว่า เคยมีชาวอะนาซาซีอาศัยอยู่
หลังจากนั้นในช่วงทศวรรษปี 1300 ชาวอะนาซาซีย้ายออกไป จนกระทั่งมีชนเผ่านาวาโฮมาถึง ต่อมาถึงปี 1860 มีการขุดพบแร่ silver ในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของ Monument valley รู้จักมากขึ้นในกลางทศวรรษปี 1900 เมื่อไปปรากฏในภาพยนตร์ตะวันตก [2]
ภาพยนตร์ถ่ายที่ หุบเขาโมนูเมนต์ มีเรื่องไหนบ้าง
จากการมีชื่อเสียง เมื่อฉากหลังได้เข้าไปอยู่ ในหนังอเมริกันคลาสสิก โดยเฉพาะเรื่อง Stagecoach และ Rio Grande ของผู้กำกับจอห์น เวย์น (John Wayne’s) ส่งผลให้นับตั้งแต่ปี 90 บริเวณนี้ถูกใช้ถ่ายทำหนังอีกหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น
- 2001 จอมจักรวาล (1968) : 2001: A Space Odyssey
- อีซี่ไรเดอร์ (1969) : Easy Rider
- ร้อนนักก็พักร้อน (1983) : National Lampoon’s Vacation
- ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 3 ตอน ศึกอภินิหารครูเสด (1989) : Indiana Jones and the Last Crusade
- เจาะเวลาหาอดีต ภาค 3 (1990) : Back to the Future III
- มีมั่งไหมผู้ชายดีๆ สักคน (1991) : Thelma & Louise
- ฟอร์เรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม (1994) : Forrest Gump
- ฝ่าปฏิบัติการสะท้านโลก 2 (2000) : Mission Impossible II
ที่มา: Movies Set in Monument Valley [3]
คู่มือเยือน หุบเขาโมนูเมนต์ ฉบับล่าสุด
![หุบเขาโมนูเมนต์](https://pgslot.qa/wp-content/uploads/2024/05/หุบเขาโมนูเมนต์.รอง2.webp)
หุบเขาโมนูเมนต์ หรือ Monument Valley Navajo Tribal Park ในความจริงแล้ว ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติ แต่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของ Navajo Nation ในภูมิภาค Four Corners แห่งสหรัฐฯ ทำให้นักท่องเที่ยว ไม่สามารถใช้บัตรผ่าน ของอุทยานแห่งชาติอเมริกาได้ เสียค่าเข้าชม $8 ต่อคน (293 บาท)
ซึ่งทางสำนักงาน เปิดบริการ 08.00-17.00 น. วันจันทร์ถึงศุกร์ แบ่งออกเป็นช่วงเวลา ในฤดูหนาวและฤดูร้อน ได้แก่ หน้าหนาวเส้นทางขับรถชมวิว 08.00-17.00 น. และรอบสุดท้ายของวันอาทิตย์คือ 14.30 น. ส่วนบูททัวร์เปิด 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นเช่นเดียวกัน
สำหรับในหน้าร้อน เส้นทางขับรถชมวิว 07.00-19.00 และรอบสุดท้ายวันอาทิตย์คือ 16.30 น. ส่วนบริษัททัวร์เปิด 08.00-17.00 น. ตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งทุกส่วนจะปิดทำการ ทุกวันสำคัญของประเทศนาวาโฮ เช่น วันขอบคุณพระเจ้า, วันคริสต์มาส, วันปีใหม่ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Navajo Nation Park
ไปเที่ยว หุบเขาโมนูเมนต์ มีอะไรให้ทำบ้าง
- ทัวร์ต่างๆ โดยชาวท้องถิ่น
ในบางพื้นที่ ไม่สามารถเที่ยวเองได้ ต้องซื้อทัวร์เพื่อนำเที่ยว เช่น สำรวจหุบเขา และวิถีชีวิตชาวอินเดียนนาวาโฮ ใช้เวลา 10 ชั่วโมง / ทัวร์ทางอากาศ 90 นาที / ทัวร์รถจี๊ป 8 ชั่วโมง เป็นต้น
- ชมเนินหินรูปทรงแปลกตา
เช่น Mittens และ Merrick's Butte / Elephant Butte หินคล้ายรูปช้าง / Three Sisters ยอดหินแหลมบนเนินสูง / Camel Butte หินมหึมารูปร่างเหมือนอูฐ / Rain God Mesa หินเทพเจ้าใจกลางหุบเขา / Totem Pole ยอดหินแหลมกลางทะเลทราย / Artist’s Point จุดชมวิวที่เหมือนภาพศิลปะ / The Thumb หินคล้ายนิ้วโป้ง เป็นต้น [4]
- พิพิธภัณฑ์นาวาโฮ Shade house
ที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเชื่อ ของชนเผ่านาวาโฮ และหมู่บ้านโฮแกน มีพื้นที่ขนาดเล็ก โครงสร้างคล้ายที่บังแดด เข้าชมได้ฟรี แต่จะปิดบริการช่วงเดือน พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ และเดือนมีนาคม ถึงตุลาคม
- จุดชมวิวจอห์น ฟอร์ดส
จุดนี้ถูกตั้งชื่อตามชาวอเมริกัน John Ford ซึ่งเป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ ซึ่งนำเสนอทิวทัศน์นี้ ผ่านภาพยนตร์เก่าๆ หลายเรื่อง มองเห็นภูมิศาสตร์กว้างใหญ่ สันเขา และทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา
- ทางเดินป่า Wildca
เส้นทางเดินป่าระยะสั้นประมาณ 6.4 กิโลเมตร ที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์สีส้ม แห้งแล้ง และหินสูง ซึ่งใช้เวลาเดินราว 2-3 ชั่วโมง เพราะค่อนข้างเดินยาก เนื่องจากมีทรายหนา แถมยังอยู่ใกล้กับหินเขา Mitten Buttes และ Merrick Butte อีกด้วย [5]
การเดินทางไปยัง หุบเขาโมนูเมนต์ ทำยังไง
![หุบเขาโมนูเมนต์](https://pgslot.qa/wp-content/uploads/2024/05/หุบเขาโมนูเมนต์.รอง3.webp)
การเดินทางไปเที่ยว Monument Valley ที่คนนิยมและมีความสะดวก คือการขับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถเช่า หรือรถยนต์ส่วนบุคคล เพราะถึงแม้จะนั่งเครื่องบิน ก็ต้องเช่ารถเพื่อมาอยู่ดี เนื่องจากสนามบินหลัก อยู่ในรัฐฟีนิกซ์ ซึ่งห่างราวๆ 510 กม. ซึ่งถนนสายหลัก มีดังนี้
- ถนนหุบเขาอนุสาวรีย์ : แบ่งออกเป็น 2 สาย ได้แก่ Oljeto และ Rock Door Canyon ซึ่งจะพาไปสู่ ศูนย์บริการของหุบเขา ทางตะวันตกของ อุทยานชนเผ่านาวาโฮ
- ถนน US Route 163 : ทางหลวงสายหลัก เข้าสู่หุบเขาทางตอนใต้ ผ่านเส้นทาง 163 เมืองคาเยนตาทางตอนเหนือ ไปยัง Mexican Hat ตัดกับถนน US 191 เชื่อมต่อ US 163 และอุทยานแคนยอนแลนด์ กับอุทยาน Arches
สรุป หุบเขาโมนูเมนต์
หุบเขาโมนูเมนต์ มีสภาพอากาศแบบแห้งแล้ง ในช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิเฉลี่ย 32 องศา ไม่เกิน 38 องศา ส่วนหน้าหนาว อาจติดลบถึง -18 องศา คนส่วนใหญ่จึงนิยม เที่ยวช่วงซัมเมอร์มากกว่า ถือว่าเป็นภูมิศาสตร์ที่มีความสวยเฉพาะ กิจกรรมเยอะ ทำให้เป็นหนึ่งเป้าหมายใน USA ที่ใครหลายคนต้องการมาเยือน
อ้างอิง
[1] Traveloka. (April 29, 2024). ความเป็นมาของหุบเขาโมนูเมนต์. Retrieved from traveloka
[2] Wikivoyage. (2024). History. Retrieved from en.wikivoyage
[3] Anywhere We Roam. (February 16, 2024). Movies Set in Monument Valley. Retrieved from anywhereweroam
[4] Travel in USA. (2012-2024). How to Visit Monument Valley. Retrieved from travelinusa
[5] The Planetd. (January 31, 2024). Best Things To Do In Monument Valley. Retrieved from theplanetd