หลุมน้ำเงิน (The Great Blue Hole) หรือ หลุมน้ำเงินคราม เป็นวงกลมยักษ์ใหญ่ นอกชายฝั่งประเทศเบลีซ ที่ถูกยกย่องว่าเป็น 1 ใน 10 สถานที่น่าเที่ยวของโลก และเป็นหนึ่งในแดนสวรรค์ ของนักผจญภัยใต้น้ำ ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ยังไง ตั้งอยู่ที่ไหน และทำไมถึงน่าเที่ยว ไปสำรวจพร้อมกันด้านล่าง
อะไรคือ หลุมน้ำเงิน สวรรค์ของนักผจญภัยใต้น้ำ
หลุมน้ำเงิน คือหลุมลึกขนาดใหญ่ ที่เกิดขึ้นในทะเลของเบลีซ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ใจกลางแนวปะการัง Lighthouse Reef และเป็นลักษณะ atoll ขนาดเล็ก ในแถบทะเลแคริบเบียน ห่างจากแผ่นดินเมืองหลวงราว 70 กม. โดยมีรูปทรงวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 318 เมตร ลึก 124 เมตร และมีพื้นที่กว่า 70,650 ตร.กม.
การเกิดขึ้นของ หลุมน้ำเงิน เป็นยังไง
การก่อตัวของ หลุมน้ำเงิน มีลักษณะเด่นคือ เป็นอะทอลล์ปะการังเพียง 1 เดียว ในภูมิภาคตะวันตก ซึ่งสันนิษฐานว่า เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 70 ล้านปีก่อน เพราะเดิมทีเชื่อกันว่า พื้นที่หลุมเป็นถ้ำมาก่อน จากนั้นน้ำทะเลลดลง น้ำจึงกัดกร่อนหินปูน ทำให้เกิดเป็นหินงอก หินย้อย
และได้รับการวิเคราะห์ว่า มันก่อตัวในยุคน้ำแข็งควอเทอร์นารี ตลอดหลายหมื่นปี 153,000 / 66,000 / 60,000 และ 15,000 ปีก่อน หลังจากยุคน้ำแข็งสิ้นสุดลง น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ปะการังเจริญเติบโต และเปลี่ยนจากถ้ำ ให้กลายเป็นหลุมยักษ์ [1] สรุปง่ายๆ ดังนี้
- การพังทลายของหิน : น้ำกัดเซาะหินแข็ง ละลายแร่ธาตุและหินอ่อน เช่น หินปูน ยิปซัม และหินคาร์บอเนตต่างๆ
- การก่อตัวของถ้ำ : น้ำกัดเซาะหินจนไม่เหลือ เกิดความว่างเปล่า กลายเป็นถ้ำดิน
- ถ้ำถล่ม : เมื่อไม่มีโครงสร้างหินด้านล่าง ถ้ำถล่มลงมาทับซ้อน
- น้ำท่วมหลุมยุบ : เมื่อน้ำเพิ่มสูงหลายหมื่นปี ถ้ำที่ถูกทับซ้อน ยุบตัวกลายเป็นหลุม [2]
ใครค้นพบ หลุมน้ำเงิน และทำไมเป็นที่รู้จัก
หลุมสีน้ำเงินยักษ์ ถูกพบครั้งแรกระหว่างปี 1528 ถึงปี 1532 โดยชาวยุโรป ต่อมาเมื่ออังกฤษบุกยึดครองเบลีซ ในช่วงทศวรรษปี 1750 แนวปะการังอะทอลล์ เคยมีชื่อเรียกว่า Eastern Reef หรือ Quattro Cayas แต่ถูกเปลี่ยนเป็น Half Moon Caye จากการสร้างประภาคารเมื่อปี 1820 [3]
กระทั่ง 1960 หลุมนี้มีชื่อเสียงมาจาก การปรากฏบนนิตยสาร Skin Diver โดยผู้เขียนคือ Al Giddens พร้อมถ่ายทำสารคดีเรื่อง The Painted Reefs of British Honduras ต่อมาในปี 1970 นักสำรวจชื่อว่า Cousteau ขนานนามให้ Great Blue Hole เป็น 1 จาก 10 แหล่งดำน้ำชั้นนำของโลก
Jacques Cousteau ทำให้สถานที่นี้โด่งดังมากขึ้น จากการนำเสนอเรื่อง The Undersea World of Jacques Cousteau 1971 ต่อมาปี 1988 Ned Middleton นักดำน้ำชาวอังกฤษ เป็นผู้ตั้งชื่อหลุมนี้ ในปี 1996 ถูกรองรับเป็นมรดกโลกจาก NESCO และ 2012 Discovery Channel จัดให้อยู่ในอันดับ 10 สถานที่น่าทึ่งของโลก [4]
คู่มือเที่ยวชม หลุมน้ำเงิน ใครสามารถดำน้ำได้บ้าง
การดำน้ำที่ หลุมน้ำเงิน ไม่สามารถทำได้ทุกคน เพราะกฎระเบียบพื้นฐาน คือต้องมีใบรับรองจาก Open Water อย่างน้อย 6 เดือน ว่าสามารถดำได้ลึกถึง 80 ฟุตแล้ว ถึงจะสามารถเข้าร่วมได้ ในขณะที่นักดำน้ำ Advance Open Water สามารถลงถึงได้ถึง 130 ฟุต ซึ่งกฎอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ
โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่ที่ประมาณ 350 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน สำหรับดำน้ำลึก (12,700 บาท) ไม่ว่าจะเป็นค่าทัวร์ ภาษีสินค้า ค่าเช่าอุปกรณ์ และค่าธรรมเนียมอุทยานทางทะเล 30 ดอลลาร์ (1,088 บาท) และพื้นที่ Half Moon Caye 10 ดอลลาร์ (363 บาท) ส่วนนักดำน้ำตื้น จ่ายไม่เกิน 175 ดอลลาร์ (6,351 บาท)
3 วิธีไปเยือน หลุมน้ำเงิน พร้อมข้อดี-ข้อเสีย
สำหรับการไปเยือน หลุมน้ำเงิน มี 2 ตัวเลือกหลัก และ 1 ตัวเลือกเพิ่มเติม ซึ่งมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้
ตัวเลือกที่ 1 : ชมวิวด้วยเฮลิคอปเตอร์
เหมาะกับคนที่ดำน้ำไม่เป็น แต่อยากชมความน่าทึ่ง สามารถซื้อทัวร์ทางอากาศ ซึ่งส่วนมากจะเป็นที่นั่งสำหรับ 6 คน ราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ต่อรอบ (54,435 บาท) หรือตกคนละ 250 ดอลลาร์ (9,073 บาท) ส่วนบริษัทที่บริการ อาทิเช่น
ทรอปิกแอร์ ซึ่งบินเพียงไม่กี่เที่ยวต่อสัปดาห์ วันอังคาร, พฤหัสบดี และอาทิตย์ หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ทางการ Tropic Air และอีกหนึ่งบริษัทคือ มายา ไอร์แลนด์ มีเที่ยวบินมากกว่า วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ และอาทิตย์ หรือจองแพ็กเกจที่ Maya Island Air
- ข้อดี : ถ่ายรูปได้แบบ 360 องศา มองเห็นวิวทุกมุม
- ข้อเสีย : พลาดไฮไลต์สำคัญ คือการดำน้ำ
ตัวเลือกที่ 2 : ล่องเรือเพื่อไปดำน้ำโดยเฉพาะ
วิธีที่ยอดเยี่ยมที่สุด สำหรับคนที่รักการดำน้ำ ชมวิว และเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ล่องเรือชมเกาะต่างๆ และจอดดำน้ำได้ทุกที่ ซึ่งมีให้เหมาลำตั้งแต่ 8 คน / 10 คน / 12 คน ราคาเริ่มต้น 325 ดอลลาร์ (11,796 บาท)
- ข้อดี : รับประสบการณ์ดำน้ำ 100% สัมผัสบรรยายตลอดทาง
- ข้อเสีย : บางครั้งอาจมีลมแรง ราคาค่อนข้างแพง แต่น้อยกว่านั่งเฮลิคอปเตอร์
ตัวเลือกที่ 3 : Blue Hole Dive
ทัวร์แบบไป-กลับ ด้วยเรือความเร็วสูง มีบริการหลายแห่งรอบๆ เกาะ เช่น Caye Caulker, San Pedro เป็นต้น ราคาประมาณ 350 ดอลลาร์ (12,705 บาท) รวมอาหารและอุปกรณ์
- ข้อดี : ไปถึงเร็ว
- ข้อเสีย : ระยะทางไกล หากไปแบบเช้า-เย็นกลับ เวลาอาจไม่พอสำหรับเที่ยวจุดอื่นๆ
ที่มา: How to see the blue hole in belize [5]
แพลนเที่ยว หลุมน้ำเงิน ไปเมื่อไหร่ดี
ภูมิอากาศของประเทศเบลีซ แบ่งเป็น 2 ฤดูหลักๆ คือ ฤดูฝน เดือนมิถุนายน ถึงธันวาคม และฤดูแล้ง เดือนมกราคม ถึงพฤษภาคม ส่วนช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือเมษายน-มิถุนายน เนื่องจากน้ำจะอุ่น อุณหภูมิประมาณ 26 องศา น้ำใส มองเห็นได้ชัด แถมหากโชคดี ยังมีโอกาสเจอกับฉลามวาฬอีกด้วย
สรุป หลุมน้ำเงิน
หลุมน้ำเงิน เป็นพื้นที่อนุรักษ์ของ Belize Barrier Reef Reserve System รวมถึงยูเนสโก ซึ่งมีความนิยมสูง เพราะยิ่งดำลึก ก็ยิ่งจะพบกับความน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็น สัตว์ทะเล โบราณคดีใต้น้ำ และแนวปะการัง ซึ่งถ้าหาก เกาะมัลดีฟส์ ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดิน หลุมสีน้ำเงินก็ต้องเป็นสวรรค์ใต้บาดาล 10 อันดับแรกของโลก ที่ต้องไปเยือน
อ้างอิง
[1] Wikipedia. (May 6, 2024). Great Blue Hole. Retrieved from en.wikipedia
[2] Surfer Today. (March 8, 2024). The Formation of the Great Blue Hole. Retrieved from surfertoday
[3] Belize Hub. (2024). A Geologic History. Retrieved from belizehub
[4] Dive The World. (2002-2024). More: Recognition, History, Secrets. Retrieved from dive-the-world
[5] ADV Travelbug. (May 1, 2021). How to see the blue hole in belize. Retrieved from advtravelbug
