บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง หรือแกรนด์ปริซึมสปริง (Grand Prismatic Spring) บ่อน้ำสุดแปลกขนาดใหญ่ ปรากฏหลากสีสัน ที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือ “1,000 Places to See Before You Die” หรือ 1 ใน 1,000 สถานที่ ที่ต้องไปเยือนก่อนตาย โดยข้อมูลที่น่าสนใจ มีดังต่อไปนี้
อะไรคือ บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ขนาดใหญ่สุดของอเมริกา
บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง เป็นจุดเที่ยวชมยอดฮิต แห่งหนึ่งของ Yellowstone National Park ซึ่งตั้งอยู่ใน Midway Geyser Basin โดยได้ชื่อว่า เป็นบ่อน้ำพุร้อนใหญ่สุด ในสหรัฐอเมริกา และใหญ่เป็น Top 3 ของโลก ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 200-300 ฟุต และมีความลึกมากกว่า 121 ฟุต
ซึ่งโด่งดังมาจาก การปรากฏสีสันอันสดใส คล้ายกับปริซึม ที่ถูกส่องด้วยแสง ไม่ว่าจะเป็น สีแดง, ส้ม, เหลือง, เขียว และสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ ซึ่งเกิดจากแบคทีเรีย และเป็นที่มาของชื่อ โดยจะปล่อยน้ำพุร้อน อุณหภูมิประมาณ 70 องศาเซลเซียส ออกมาราวๆ 2,100 ลิตรต่อนาที
เพราะเหตุใด บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ถึงมีหลายสี
![บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง](https://pgslot.qa/wp-content/uploads/2024/05/บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง.รอง1.webp)
สิ่งที่ทำให้น้ำพุเป็นสีรุ้ง ไม่ได้มาจากแร่ธาตุต่างๆ เหมือนกับการเกิดขึ้นของ ทะเลสาบสปอทเลค หรือทะเลสาบลายจุด แต่สีสันเหล่านั้น เกิดจากจุลินทรีย์ที่สามารถ เจริญเติบโตในความร้อนได้ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “thermophiles” ที่เป็นลักษณะพิเศษของไฮโดรเทอร์มอล
ซึ่งรวมตัวกันเป็นล้านล้าน ส่งผลให้ปรากฏเป็นมวลสี โดยมีพลังงาน และส่วนประกอบทางเคมี เพื่อช่วยในการเติบโต ซึ่งเทอร์โมฟิลไม่มีสี และสีเหลือง จะเติบโตได้ดีในน้ำร้อนสุดๆ และเทอร์โมฟิลสีส้ม น้ำตาล และเขียว จะเติบโตได้ดีในน้ำเย็น [1] แบ่งออกเป็น 4 สีหลัก ได้ดังนี้
- สีฟ้า : จุดศูนย์กลางสุดเดือด ที่มีเพียงแบคทีเรียชนิดเดียวอยู่ได้ ซึ่งสีฟ้าที่ปรากฏ เกิดจากการกระจายของความยาวคลื่น เช่นเดียวกับมหาสมุทร
- สีเหลือง : ที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียไซยาโนชื่อว่า Synechococcus ที่พบแพร่หลาย ในสภาพแวดล้อมทางทะเล ซึ่งแสดงสีที่แตกต่าง จากการสังเคราะห์แสง
- สีส้ม : น้ำเย็นลงในชั้นสีส้ม แบคทีเรียอยู่ได้มากขึ้น ทั้ง Chloroflexi และ Synechococcus
- สีแดง : วงแหวนความร้อนน้อยสุดคือ 55 องศา แบคทีเรียมีชีวิตอยู่ได้มากสุด และมีความขุ่น มากกว่าวงแหวนสีส้ม ทำให้บางครั้ง อาจมองเห็นเป็นสีน้ำตาล-แดง
ที่มา: Why Is Yellowstone’s Grand Prismatic Spring Rainbow-Colored? [2]
ประวัติการค้นพบ บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ฉบับโดยย่อ
ข้อมูลที่ถูกบันทึกครั้งแรก มาจากนักสำรวจชาวยุโรป เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1839 โดยมีกลุ่มผู้ดักสัตว์ 4 คน จากบริษัท American Fur ได้ข้ามลุ่มน้ำมิดเวย์ไกเซอร์ และจดบันทึกเกี่ยวกับ ทะเลสาบที่กำลังเดือด ซึ่งอาจว่าน่าจะเป็น Grand Prismatic Spring ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 ฟุต [3]
อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานทางโบราณคดี และคำบอกเล่าต่างๆ ระบุว่าพื้นที่แห่งนี้ เคยมีคนอาศัยอยู่มานานกว่า 11,000 ปี ซึ่งใช้น้ำพุร้อนในการทำอาหารและอาบ แถมยังมีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ และทางการแพทย์อีกด้วย กระทั่งในปี 1871 น้ำพุแกรนด์ปริซึมสปริง ถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ โดยการสำรวจของนักธรณีวิทยาจาก Hayden [4]
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนท่องเที่ยว บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ณ USA
หากต้องการเที่ยวชม บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ต้องจ่ายค่าเข้าอุทยานเยลโลว์สโตน ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบประจำปี และรายสัปดาห์ โดยมีรายละเอียดราคา ดังเช่นด้านล่าง
- รถยนต์ส่วนตัว : ราคา 35 ดอลลาร์ (1,286 บาท) อายุใช้การ 7 วัน
- เดินเท้าและปั่นจักรยาน : ราคา 20 ดอลลาร์ (735 บาท) อายุใช้การ 7 วัน
- บัตรผ่านรายปี : ราคา 70 ดอลลาร์ (2,572 บาท) อายุใช้การ 365-366 วัน
- America the Beautiful Pass : ราคา 80 ดอลลาร์ (2,939 บาท) อายุใช้งาน 1 ปี ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติทั่วอเมริกา
วิธีในการเยี่ยมชม บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง และข้อดี-ข้อเสีย
![บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง](https://pgslot.qa/wp-content/uploads/2024/05/บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง.รอง2.webp)
สำหรับการเข้าถึง บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง มีด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่ เดินตามจุดชมวิว ที่มีสะพานไม้บริการ และชมวิวผ่านการปีนเขา ซึ่งมีทั้งข้อดี และจุดด้อย ดังนี้
ชมวิวระดับพื้นดิน (เดินตามสะพาน)
- ข้อดี : มองเห็นแบบใกล้ชิด สะดวกสบาย มีสะพานให้เดินรอบวงแหวน
- จุดด้อย : เห็นระยะไกล ที่จอดรถน้อย ไม่สามารถชมทิวทัศน์ได้ แบบสุดลูกหูลูกตา
- ระยะเวลา : 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
- ที่จอดรถ : บริเวณน้ำพุร้อนโดยตรง
ชมวิวระดับสูง (เดินป่า/ปีนเขา)
- ข้อดี : ได้สัมผัสทิวทัศน์ ไปกับเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม ก่อนจะถึงจุดชมน้ำพุร้อน 360 องศา คนไม่พลุกพล่าน
- จุดด้อย : ใช้เวลาเดินค่อนข้างนาน ไม่เหมาะกับทริปที่มีเด็ก
- ระยะเวลา : 1.5 ถึง 2 ชั่วโมง
- ที่จอดรถ : ลานจอดรถ Fairy Falls Trail ทางใต้ของลานจอดหลัก
ที่มา: Two Ways to Visit Grand Prismatic Spring [5]
สามารถเข้าสู่ บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง จากทางไหนได้บ้าง
ทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ไม่อยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ๆ สามารถเข้าถึงได้จาก 5 ทางหลัก ต่อไปนี้
ทางเข้าทิศตะวันตก
- เป็นทางมาจากมอนแทนา ในเมืองเวสต์เยลโลว์สโตน ซึ่งมีโรงแรม ร้านค้า และศูนย์บริการของ สวนสาธารณะ Big Sky ใช้เวลาเดินทางตัวเมืองเวสต์ราว 1 ชั่วโมง แต่หากมาจากโบซแมน ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์
ทางเข้าทิศใต้
- ทางเหนือของเยลโลว์สโตน คืออุทยานแห่งชาติ Grand Teton รัฐไวโอมิง โดยเชื่อมต่อสวนสาธารณะ 2 แห่ง มีบ้านพักตากอากาศ ร้านอาหาร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที สำหรับการไปถึง
ทางเข้าทิศตะวันออก
- อีกหนึ่งทางเข้าจากรัฐไวโอมิง ผ่านเมืองโคดี ที่มีฉายาว่า "เส้นทางที่ดุร้ายที่สุดสู่เยลโลว์สโตน" หรือ "เมืองหลวงแห่งโรดีโอของโลก" โดยผ่านทั้งฝูงม้ามัสแตงป่า เขื่อนบัฟฟาโลบิล และพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง
ทางเข้าตะวันออกเฉียงเหนือ
- เข้าสู่เยลโลว์สโตนผ่านทางหลวง Beartooth Highway ด้วยระยะทาง 68 ไมล์ ที่เชื่อมต่อกับ Red Lodge ในรัฐมอนแทนา และยอดเขาใน Beartooth Pass ระดับความสูงเกือบ 11,000 ฟุต
ทางเข้าทิศเหนือ
- เดินทางจากเมือง Gardiner รัฐมอนแทนา ทางตอนเหนือของน้ำพุร้อนแมมมอธ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไปยังเมือง Livingston และขับต่ออีก 1 ชั่วโมงไปยังเมือง Bozeman ก่อนเข้าสู่อุทยาน
ที่มา: Entering The Park [6]
สรุป บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง
บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง เป็นการเกิดขึ้นที่อะเมซิง ที่เหมือนหลุดมาจาก CG ในโรงภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับการศึกษา ที่ใช้จุลินทรีย์จากน้ำพุ ทั้งในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เช่น การพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 หรือโรคมะเร็ง เรียกว่ามีดีทั้งความสวย ความแปลก และความสำคัญระดับนานาชาติ
อ้างอิง
[1] National Park Service. (April 5, 2024). Color and Heat Lovers. Retrieved from nps
[2] Iflscience. (March 23, 2023). Why Is Yellowstone’s Grand Prismatic Spring Rainbow-Colored?. Retrieved from iflscience
[3] Wikipedia. (November 19, 2023). History. Retrieved from en.wikipedia
[4] World Atlas. (2024). History. Retrieved from worldatlas
[5] Ace Adventurer. (2024). Two Ways to Visit Grand Prismatic Spring. Retrieved from aceadventurer
[6] Travel a la Mer. (2024). Entering The Park. Retrieved from travelalamer