ทะเลทรายแบล็คร็อค (Black Rock Desert) พื้นที่แอ่งทะเลทรายกึ่งแห้งแล้ง ที่ครอบคลุมกว่า 300,000 เอเคอร์ และมีเส้นทางประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 10,000 ปีก่อน ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ จัดเทศกาลชื่อดัง และเป็นหนึ่งในจุดหมายแห่ง USA นอกจาก แกรนด์แคนยอน ที่หลายคนอยากไปเยือน โดยมีข้อมูลต่างๆ ต่อไปนี้
รู้จักกับ ทะเลทรายแบล็คร็อค ตั้งอยู่ที่ไหน
ทะเลทรายแบล็คร็อค เป็นพื้นที่ห่างไกล ที่ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์แห่งชาติเส้น ทางอพยพของทะเลทรายแบล็คร็อค – ไฮร็อคแคนยอน (NCA) ซึ่งเป็นก้นทะเลทราย ที่ทอดยาวกว่า 160 กิโลเมตร ทางตอนเหนือของเมืองรีโน รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา และถูกดูแลโดย สำนักจัดการที่ดิน หรือ HMA ของสหรัฐฯ
ธรณีวิทยา ทะเลทรายแบล็คร็อค และภูมิประเทศ
แบล็คร็อคคือทะเลทราย ที่มีลักษณะภูเขาไฟ และมีความร้อนใต้ดินสูงมาก ในบริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือ และจุดแบล็คร็อค 2 จุด คือ ตะวันออก และตะวันตก ซึ่งมีหินภูเขาไฟสีเข้ม ในยุคเพอร์เมียน โดยที่ก้นทะเลทราย เป็นเศษซากความแห้งแล้ง ของทะเลสาบ Lahontan ในยุคไพลสโตซีน
ทะเลทรายแบล็คร็อค และถูกแยกออกเป็น 2 พื้นที่ โดยมีเทือกเขาแบล็คร็อค ความสูงราว 3,907 ฟุต และเนื้อหากว้างประมาณ 2,600 กิโลเมตร ซึ่งเริ่มตั้งแต่เทือกเขาซานตาโรซา และสิ้นสุดที่แม่น้ำควินน์ นอกจากนี้ ยังครอบคลุมพื้นที่ตอนล่าง ทะเลทราย Smoke Creek ทะเลสาบสังหารหมู่ และหุบเขาเวอร์จินอีกด้วย [1]
โดยมีสถานที่สำคัญใกล้เคียง ยกตัวอย่างเช่น ยอดเขาบาร์ตเลตต์, ยอดเขา Pahute หรือบิ๊กเมาน์เทน เป็นต้น ส่วนสภาพอากาศ กลางวันแห้งและอบอุ่น กลางคืนเย็นสบาย มีปริมาณน้ำฝนต่อปี ที่ระดับความสูงตั้งแต่ 15-20 ซม. ไปจนถึง 35 ซม. และมีพืชพรรณ รวมถึงสัตว์ป่า อาทิเช่น
- พืชพรรณ : ไม้พุ่มทะเลทรายเกลือ, หญ้าข้าวอินเดีย, หน้าหางกระรอก, หญ้าเข็ม เป็นต้น
- สัตว์ป่า : ล่อกวาง, ละมั่งง่าม, แกะแคลิฟอร์เนียบิ๊กฮอร์น, นกกระทาชูการ์ เป็นต้น [2]
ศึกษาประวัติ ทะเลทรายแบล็คร็อค พอสังเขป
ทะเลทรายแห่งนี้ โดยเฉพาะบริเวณ Black Rock Point เดิมทีเคยเป็นที่อยู่อาศัย ของชาวอเมริกันอินเดียน ซึ่งย้อนไปไม่น้อยกว่า 10,000 ปี ก่อนที่ในศตวรรษ 19 ผู้อพยพจะเดินทางไปยัง รัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐออริกอน กระทั่งเดินทางมาถึงปี 1843-1844 มีนักสำรวจชื่อว่า John C. Frémont ได้เข้ามาสำรวจ Applegate Trail และถือว่าเป็นผู้บุกเบิกเส้นทาง [3]
จากนั้นมา ก็มีหลายประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นในทะเลทรายแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น การถูกใช้เป็นฉาก สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ The Winning of Barbara Worth 1996 และรายการทีวี Mythbusters 2003 หรือจะเป็นความพยายามด้านจรวด ตั้งแต่ปี 1996-2014 หรือการบันทึกความเร็วทางบก ที่เริ่มในปี 1983 และ 1997
และนอกจากนี้ ยังมีการขุดพบ ฟอสซิลแมมมอธโคลัมเบีย ที่อาศัยอยู่เมื่อราว 20,000 ปีก่อน ในปี พ.ศ. 1997 ซึ่งในขณะนี้ ถูกจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์รัฐเนวาดา และท้ายที่สุด คือการทำเหมืองแร่ยิปซัม และเหมืองแร่ทองคำเมื่อปี 2008 ในเทือกเขา Kamma ใกล้กับเมืองร้าง ฮัมโบลดต์ เคาน์ตี้ ทางฝั่งตะวันออกของทะเลทรายอีกด้วย
Burning Man ทะเลทรายแบล็คร็อค ที่ขึ้นชื่อ
ทะเลทรายแบล็คร็อค เป็นพื้นที่ราบใหญ่อันดับ 2 ของซีกโลกเหนือ ที่มีรูปร่างคล้ายตัว “Y” แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ พลายา, ตะวันตก และตะวันออก โดยบริเวณส่วนของ playa ความยาวประมาณ 43 กิโลเมตร จุดที่กว้างสุดคือ 19 กิโลเมตร ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงาน Burning Man
ซึ่งเป็นเทศกาลทะเลทรายขนาดใหญ่ ที่จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1986 โดยกลุ่มผู้ไม่แสวงหาผลกำไร และมีผู้ร่วมก่อตั้ง 2 คน ได้แก่ Larry Harvey และ John Law และครั้งแรกมีผู้เข้าร่วมแค่ 35 คน ซึ่งจะมีการเผาหุ่นไม้ คล้ายกับฉากในหนัง The Wicker Man (1973) ที่กลายมาเป็นซิกเนเจอร์ของงาน [4]
โดยจัดขึ้นปีละครั้ง ประมาณ 1 สัปดาห์ และมีข้อปฏิบัติ 10 ประการ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ทางการ Burning Man Project ซึ่งในปัจจุบัน มีผู้ร่วมงานมากกว่า 70,000 คนต่อปี และหนึ่งในนั้น คือผู้ก่อตั้ง Amazon (Jeff Bezos), ผู้ร่วมก่อตั้ง Google (Larry Page), ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta (Mark Zuckerberg) เป็นต้น
กิจกรรมตามฤดู ทะเลทรายแบล็คร็อค ยอดนิยม
- ตั้งแคมป์ : BLM อนุญาตให้ตั้งแคมป์ ได้ทุกพื้นที่ของพลายา และมีจุดตั้งแคมป์สำหรับรถ RV หลายแห่ง
- เดินป่า : บริเวณแบล็คร็อค เป็นส่วนหนึ่งของ พื้นที่อนุรักษ์แห่งชาติ มีเส้นทางประมาณ 290 กิโลเมตร
- ล่องแพ : แม่น้ำควินน์ (Quinn) ไหลผ่านพื้นที่ป่า มีการล่องเรือแพ และพายเรือคายัก
- ชมสัตว์ / ล่าสัตว์ : มีการอนุญาตให้ล่าสัตว์ ในเฉพาะถิ่นทุรกันดาร แต่ห้ามทำลายพืชพรรณ และยังมีสัตว์ป่า ให้ชมอีกมากมาย
แนะนำ 5 สถานที่น่าเที่ยวใน ทะเลทรายแบล็คร็อค
นอกจากกิจกรรมสุดฮิต ที่กล่าวไปด้านบน ยังมีอีกหลายสถานที่ ที่น่าไปใน ทะเลทรายแบล็คร็อค อย่างเช่น 5 จุดแนะนำ ต่อไปนี้
จุดที่ 1 : Playa (พลายา)
- หรือที่จัดงาน Burning Man สามารถตั้งแคมป์ และกิจกรรมเชิงพาณิชย์ได้มากมาย รวมถึงการทดสอบความเร็ว บนภาคพื้นดินในปี 1997 ด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย ทราย ภูเขา ต้นไม้ และน้ำพุร้อน
จุดที่ 2 : Planet X Pottery
- อารยธรรมขึ้นชื่อ เครื่องปั้นดินเผา Planet ตั้งอยู่นอกเมือง Gerlach มีทั้งกิจกรรม ที่พักส่วนตัว และเป็นชุมชนแห่งศิลปะ ที่สร้างจากของเหลือใช้ เช่น ที่บังแดดจากจานดาวเทียม, ภาพวาด และอื่นๆ
จุดที่ 3 : Iveson Ranch
- เขตพื้นที่ฟาร์มปศุสัตว์ ขนาดกว่า 320 เอเคอร์ ตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 34 มีบริการทั้งรถบ้าน เต็นท์ อาหาร และกิจกรรมขี่ม้า ล่าสัตว์ หรือเดินป่า
จุดที่ 4 : Vta and Old yella dog ranch
- Vya เมืองร้างที่ปิดลงเมื่อช่วงปี 1920 มีฟาร์มสุนัข Old Yella ที่ตั้งอยู่กลางเนื้อที่กว้างใหญ่ มีกระท่อมทำจากไม้ซุง และที่จอดรถ RV ให้เช่า ราคาราวๆ 20 ดอลลาร์ (733 บาท)
จุดที่ 5 : Hot Springs
- สุดท้ายคือบ่อน้ำพุร้อน ที่มีให้เลือกหลายแห่ง เช่น บ่อที่ลงแช่ได้ น้ำพุร้อน Trego ตั้งอยู่ทางตะวันออกของพลายา และน้ำพุร้อน Soldier Meadows ที่ลึกพอสำหรับกิจกรรมว่ายน้ำ
ที่มา: 5 Places to Go in Nevada's Black Rock Desert [5]
สรุป ทะเลทรายแบล็คร็อค
ทะเลทรายแบล็คร็อค ถือว่าเป็น 1 จุดมุ่งหมาย ที่ได้รับความนิยม และขึ้นชื่อในกลุ่มในผจญภัย ที่ชอบเดินป่า ตั้งแคมป์ ล่าสัตว์ หรือหลงใหลในประวัติศาสตร์ แถมยังมีเทศกาลเผาไฟ ที่ดึงดูดคนได้เกือบ 1 แสน ที่ถึงแม้จะแห้งแล้ง เต็มไปด้วยทราย แต่นั่นคือเสน่ห์ที่ชวนให้หลายคนไปสัมผัส
อ้างอิง
[1] Wikipedia. (May 25, 2024). Geography. Retrieved from en.wikipedia
[2] Bureau of Land Management. (2024). Topography/Vegetation, Wildlife. Retrieved from blm
[3] Recreation. (2024). History. Retrieved from recreation
[4] The Standard. (September 3, 2019). Burning Man เทศกาลเสพศิลป์ กินนอนกลางทะเลทราย. Retrieved from thestandard
[5] Do It Yourself. (March 19, 2024). 5 Places to Go in Nevada's Black Rock Desert. Retrieved from doityourselfrv
