ช็อกโกแลตฮิลส์ หรือ เนินเขาช็อกโกแลต เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอต ของประเทศฟิลิปปินส์ ที่โดดเด่นด้วย ภูเขาอย่างน้อย 1.260 ลูก ซึ่งจะเปลี่ยนสีสัน ไปตามฤดูกาลต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีทั้งตำนาน เรื่องเล่า และยังเป็นเนินเขา มรดกโลกอีกด้วย ซึ่งน่าเที่ยวไม่แพ้กับ เกาะโบราเคย์ เกาะที่ดีที่สุดของฟิลิปปินส์อีกด้วย โดยข้อมูลที่น่าสนใจ มีดังนี้
ศึกษาข้อมูล ช็อกโกแลตฮิลส์ คืออะไร
ช็อกโกแลตฮิลส์ เนินเขาขนาดเล็ก รูปทรงกรวยคว่ำ ที่เรียงตัวกันในพื้นที่กว่า 50 ตร.กม. ซึ่งถูกคาดการณ์ว่า มีเขาจำนวน 1,260 ถึง 1,776 ลูก โดยมีขนาดไม่เท่ากัน สูงตั้งแต่ 30-50 เมตร และเนินที่สูงที่สุดคือ 120 เมตร ที่ปกคลุมด้วยพืชสีเขียว และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล คล้ายช็อกโกแลต ในช่วงหน้าแล้ง จึงเป็นที่มาของชื่อ
ที่ตั้งของ ช็อกโกแลตฮิลส์ และการก่อตัว
Chocolate Hills ตั้งอยู่ในเมืองคาร์เมน เกาะใหญ่โบโฮล ทางตอนใต้กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง ครอบคลุมหลายเมือง ไม่ว่าจะเป็น Carmen, Bataan และ Cagayan เป็นภูมิศาสตร์แบบลูกคลื่น สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 100-500 เมตร
ซึ่งการก่อตัวของ ช็อกโกแลตฮิลส์ คาดว่าเกิดขึ้นใน ยุคปลายไพลโอซีน ถึงต้นยุคไพลสโตซีน ที่เกาะโบโฮลยังอยู่ใต้น้ำ เมื่อแผ่นโลกเคลื่อนตัว ระดับน้ำลดลง แนวปะการังถูกดันขึ้น เกิดเป็นหินปูน เมื่อเวลาผ่านไป หินถูกกัดเซาะเรื่อยๆ จนเกิดเป็นภูมิศาสตร์แบบ karst [1] หรือทางธรณีวิทยาเรียกว่า “cockpit karst”
โดยย้อนไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 1988 ภูมิภาคแห่งนี้ ถูกประกาศให้เป็น อนุสรณ์สถานทางธรณีวิทยาแห่งชาติ แห่งที่ 13 ของฟิลิปปินส์ และถูกเสนอชื่อโดย กรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ (DENR) ให้เป็นมรดกโลกขององค์กร Unesco เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2006 [2]
ตำนาน ช็อกโกแลตฮิลส์ มีความลึกลับยังไง
เรื่องเล่าที่เกิดขึ้นใน หุบเขาสีน้ำตาลนี้ มีหลายตำนานด้วยกัน เช่น การต่อสู้ของ 2 ยักษ์ใหญ่ เล่ากันว่าครั้งหนึ่ง เคยมียักษ์ 2 ตัว อาศัยอยู่ตอนเหนือ และใต้ของเกาะ จากนั้นเมื่อถึงฤดูฝน พื้นที่กลายเป็นโคลน แล้วเกิดการต่อสู้กันของยักษ์ ซึ่งจบลงด้วยการตายของทั้งคู่ และถูกปกคลุมด้วยโคลน จนกลายเป็นภูเขา
ซึ่งตำนานยักษ์ 2 ตัวดังกล่าว หลายคนคิดว่า อาจเป็นต้นกำเนิด ของการสร้างวิชายัน ในยุคก่อนอาณานิคม ส่วนอีกหนึ่งเรื่องเล่า คือความรักของยักษ์ Arogo ที่ไปหลงรักมนุษย์ชื่อว่า Aloya และอาศัยอยู่ด้วยกัน จนครั้นภรรยาป่วยตาย ยักษ์ร้องไห้น้ำตาร่วงลงพื้น จนเกิดเป็นเนินดินและเนินเขา เป็นต้น [3]
รายละเอียดเที่ยวชม ช็อกโกแลตฮิลส์ เบื้องต้น
- เวลาทำการ : เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน แม้กระทั่งวันหยุดประจำชาติ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น.
- ค่าธรรมเนียม : ฟิลิปปินส์ใช้สกุลเงินเปโซ (PHP) สามารถซื้อตั๋วได้เฉพาะที่ Parking Place ซึ่งผู้ใหญ่จ่าย 100 เปโซ (63฿) / เด็ก 50 เปโซ (32฿) / 80 เปโซ (50฿) สำหรับ Adventure Park / เด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เข้าชมฟรี [4]
สำหรับวิธีไปยัง ช็อกโกแลตฮิลส์ มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ นั่งรถบัสรับ-ส่งฟรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที ไปยังจุดชมวิวเนินเขา และ เดินเท้าไปยังเนินเขา ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที โดยเวลาที่ดีในการท่องเที่ยว คือฤดูแล้งระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงพฤษภาคม เพราะเนินเขาจะเป็นสีน้ำตาล
จุดชมวิว ช็อกโกแลตฮิลส์ พร้อมกิจกรรมไฮไลต์
จุดชมวิวภูเขาห้ามพลาด
- จุดชมวิว Complex ในการ์เมน : ที่ท่องเที่ยวยอดฮิต มีดาดฟ้าชมวิว และบันได 214 ขั้น จากพื้นดิน ที่มองเห็นบรรยากาศโดยรอบ 360 องศา ทั้งยังมีร้านค้า และโรงแรมให้บริการ เปิดเวลา 06.00-21.00 น. มีค่าเข้าดาดฟ้า 50 เปโซ (32 บาท)
- จุดชมวิว Sagbayan : ตั้งอยู่ในเมือง Sablayan ห่างจากการ์เมนราว 17.7 กม. มีดาดฟ้าชมวิวเช่นเดียวกัน และยังมองเห็นทิวทัศน์ทะเล ระหว่างเกาะโบโฮล และเกาะเซบูอีกด้วย ส่วนค่าเข้าชมคือ 30 เปโซ (19 บาท)
กิจกรรมแนะนำ
- ขึ้นบอลลูนลมร้อน : เริ่มบริการตั้งแต่ตี 4 โดยแต่ละรอบใช้เวลา 25 นาที ถึง 1 ชั่วโมง แต่จะเปิดให้เที่ยว แค่ช่วงเดือนตุลาคม ถึงมิถุนายนเท่านั้น ราคาประมาณ 7,900-8,800 PHP (4,900-5,500 บาท)
- สวนสนุกช็อกโกแลตฮิลส์ (CHAP) : ตั้งอยู่ในเมืองการ์เมน มีกิจกรรมมากมาย เช่น ปั่นจักรยาน, โต้คลื่น, ปีนป่าย, เดินป่า เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าครบครัน พร้อมดาดฟ้าของตัวเอง มีค่าตั๋วราคา 60 PHP (38 บาท)
- ขี่รถ ATV : การผจญภัยสุดมันส์ ขี่รถตามเส้นทางเนินเขา ซึ่งมีผู้บริการหลายเจ้า เช่น Graham ATV Rental , Sotera 's ATV Rides และ Chocolate Hills ATV Rental เป็นต้น ค่าเช่าประมาณ 950 PHP (600 บาท) ต่อชั่วโมง สำหรับนั่งคนเดียว และ 1,500 PHP (948 บาท) ต่อชั่วโมง สำหรับสองคนนั่ง
ที่มา: What to Do Around the Chocolate Hills [5]
การเดินทางไปยัง ช็อกโกแลตฮิลส์ มีวิธีไหนบ้าง
การไปยังภูเขาช็อกโกแลต จากไทยไปลงเมืองหล;ง ทั้งสนามบินมะนิลา และท่าอากาศยานนานาชาติ Ninoy Aquino จากนั้นต่อเครื่องภายในประเทศ ไปลงที่สนามบินตักบีลารัน (TAG) บนเกาะโบโฮล ใช้เวลาไม่เกิน 1.30 ชั่วโมง หลังจากนั้นมีวิธีเดินทาง ไปยังเนินเขาหลายช่องทาง เช่น
- Tricycle : รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง บริการจากคนท้องถิ่น ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง
- เช่าหรือเหมารถตู้ : มีรถให้เช่าพร้อมคนขับ หรือเหมายกคัน ราคาโดยประมาณ รวมค่าน้ำมัน ค่าคนขับ และทัวร์สถานที่อื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 2,500 เปโซ (1,570 บาท) หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Bohol Rent A Car มีทั้งรถเช่า และแพ็กเกจทัวร์อื่นๆ
ที่มา: การเดินทางไปเกาะโบโฮล (Bohol Island) [6]
สรุป ช็อกโกแลตฮิลส์
ช็อกโกแลตฮิลส์ ไม่ใช่เพียงเนินเขาสีน้ำตาล ที่มีธรณีวิทยาสุดน่าทึ่ง แต่มันมีทัศนียภาพงดงาม มีความสมมาตร เสมือนกับว่ามีคนจับวาง มิหนำซ้ำยังมีตำนานที่น่าสนใจ รวมไปถึงกิจกรรมผจญภัย และการท่องเที่ยวกับชาวท้องถิ่น ซึ่งหลายคนยกให้เป็น 1 ในที่เที่ยวของฟิลิปปินส์ ที่น่าไปสัมผัสมากๆ
อ้างอิง
[1] Geology Science. (March 14, 2024). Formation and Composition of the Chocolate Hills. Retrieved from geologyscience
[2] UNESCO World Heritage Convention. (1992-2024). Chocolate Hills Natural Monument. Retrieved from whc.unesco
[3] Wikipedia. (May 7, 2024). Formation myths. Retrieved from en.wikipedia
[4] Chill And Travel. (March 17, 2024). Chocolate Hills admission. Retrieved from chillandtravel
[5] Trip Savvy. (March 11, 2020). What to Do Around the Chocolate Hills. Retrieved from tripsavvy
[6] Palanla. (October 1, 2018). การเดินทางไปเกาะโบโฮล (Bohol Island). Retrieved from palanla
