ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านโบราณของประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาใหญ่ ซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอก เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ที่ผู้คนทั่วโลกต่างอยากเดินทางมา เพื่อเข้าชมความสวยงาม รวมไปถึงอยากสัมผัสวิถีชีวิตของประชากร ด้วยสถาปัตยกรรมของรูปทรงบ้านต่าง ๆ ทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ( UNESCO )
เปิดประวัติ ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลก จังหวัดกิฟุ
“ Shirakawa - GO ” [1] เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาอันไกลโพ้น ซึ่งทางตอนเหนือของจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น Village นี้ถูกล้อมรอบไปด้วย “ เทือกเขาเรียวฮากุ ” ( Ryohaku Mountains ) ซึ่งจะมีแม่น้ำใหญ่ไหลผ่าน มีชื่อว่า “ แม่น้ำโช ” ( Sho River )
โดยบริเวณรอบ ๆ ประชากรถือว่า เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จะต้องเคารพ เพราะมีความเชื่อมาตั้งแต่เนิ่นนาน ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ตัวบ้านทุกหลังก็สูงถึง 96% ไม่มีพื้นราบเรียบ ถ้าจะปลูกข้าวก็แทบทำไม่ได้
จุดเด่นของ ชิราคาวาโกะ คือ “ บ้านทุกหลังมีรูปแบบกัสโชสึคุริ ” ( Gassho - Zukuri ) หลังคาจะเป็นลาดชัน ถ้ามองผ่าน ๆ จะดูเหมือนการพนมมือไหว้ อีกทั้งบ้านทุกหลัง ไม่ใช้ตะปูในการสร้างเลยแม้แต่น้อย ส่วนใหญ่จะมี 3 - 4 ชั้น บริเวณรอบบ้านจะมีฟาร์มเล็ก ๆ
เจ้าของบ้านมีไว้เพื่อทำเกษตร ปลูกผัก เลี้ยงไหม ส่วนมากแล้วทุกหลังจะเป็นบ้านเก่าโบราณ มีคนอาศัยอยู่ทุกหลัง แต่ก็มีบางหลังที่เปลี่ยนเป็นร้านอาหาร, ห้องพัก, โรงแรม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
เอกลักษณ์ ของ ชิราคาวาโกะ ที่แสดงให้เห็นภูมิปัญญา
ในส่วนของเอกลักษณ์เมื่อมาเที่ยว ชิราคาวาโกะ คือ การที่ทุกคนจะได้ดื่มด่ำ กับความสวยงามของวิว ถึงแม้วิวจะดูเรียบง่าย มีแต่ธรรมชาติล้อมรอบ แต่แฝงไปด้วยรากเหง้าของวัฒนธรรม ความเป็นมาเก่าแก่ของญี่ปุ่น เหล่านี้มันสะท้อนให้เห็นถึงรูปทรงของบ้าน ว่าแต่ละหลังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิม
ภูมิปัญญาการสร้างบ้านของคนสมัยก่อน ตั้งใจให้หิมะ + น้ำฝน ตกลงมาไหลลงสู่พื้นด้านล่าง ส่วนบริเวณด้านหน้า จะเพิ่มช่องหน้าต่าง 2 บานบ้าง 3 บานบ้าง เพื่อให้แสงสว่างลอดผ่านเข้ามา อากาศก็ระบายได้ดี การที่ได้ชมอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนว่า คุณกำลังย้อนเวลากลับไป สู่ยุคของญี่ปุ่นสมัยก่อนเลยล่ะ
รวมไฮไลท์ห้ามพลาด ถ้ามา ชิราคาวาโกะ
- บ้านทรงโบราณคันดะ ( Kanda House ) = บ้านโบราณที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้เข้าชมห้องต่าง ๆ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้คนสมัยก่อน ที่นี่แอบมีกลิ่นอายของช่วงเวลาสมัยก่อน
- วัดเมียวเซนจิ ( Myozen-ji Temple ) = วัดเก่าแก่ แต่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม การสร้างรูปแบบกัสโซซึคุริ จึงทำให้วัดแห่งนี้ ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
- จุดชมวิวเท็นชุคาคุ ( Tenshukaku Observatory ) = ถ้าใครอยากเห็นวิวของ Village จากมุมสูง ขอให้เดินขึ้นเนินเขานิด ๆ แล้วจะทึ่งกับวิว มุมเดียวที่สามารถเก็บภาพได้แบบมุมกว้าง กดชัตเตอร์ซะจนเผลอลืมดูว่า ตัวเองกดไปแล้ว 10 กว่ารูป
- ศาลเจ้าชิรากาวะ ฮาจิมัง ( Shirakawa Hachiman Shrine ) = ศาลเจ้าเล็ก ๆ แต่มีความเก่าแก่ บรรยากาศให้ความร่มเย็น มาแล้วรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลา กลับไปในช่วงยุคสมัยโบราณ
- ชิราคาวาโกะโนะยุออนเซ็น ( Shirakawago no Yu ) = สถานที่สำหรับนอนแช่ออนเซ็น ฟินไปกับน้ำอุ่น ๆ บวกธรรมชาติสวย ๆ
ที่มา : 7 จุดเที่ยวห้ามพลาดในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) 2567 [2]
ไปบุก ชิราคาวาโกะ ช่วงเวลาไหนดี ?
- ฤดูหนาว = ช่วงเวลานี้จะสวยที่สุด เพราะหิมะจะเริ่มตกลงมา ตั้งแต่เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยโดยรวมถึงขั้น -1 - 2 องศา
- ฤดูใบไม้ผลิ = ช่วงเวลานี้ดอกซากุระจะเริ่มผลิบาน
- ฤดูใบไม้ร่วง = ต้นไม้ ใบไม้ทั่วทั้งหุบเขาจะเปลี่ยนสี ทำให้อารมณ์เปลี่ยน คล้ายกับว่าอยู่ในโลกของเทพนิยาย แนะนำให้ไปปลายเดือนตุลาคม - ต้นพฤศจิกายน
- ฤดูร้อน = ช่วงนี้อากาศดี ไม่ร้อน หรือหนาวจนเกินไป ดอกไม้ทุกต้นจะเริ่มเบ่งบาน อีกทั้งยังมีพวกหิ่งห้อย บินออกมาให้ชมตอนกลางคืนอีกด้วย
ที่มา : 10 สถานที่เที่ยวชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) และกิจกรรมน่าสนใจต่างๆ [3]
สรุป ชิราคาวาโกะ สีสันหมู่บ้านมรดกโลก
ด้วยความสวยงามของหมู่บ้านประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้ สีสันของการมาเที่ยวเปลี่ยนไป เพราะจะได้เที่ยวชม บวกเรียนรู้การอยู่กับธรรมชาติ ความสวยงามนี้ ไม่มีให้เห็นจากที่อื่นอีกแล้ว
อ้างอิง
[1] วิกิพีเดีย. (September 12, 2023). หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิรากาวาโงและโกกายามะ. Retrieved from th.wikipedia
[2] Talon Japan. (February 19, 2024). 7 จุดเที่ยวห้ามพลาดในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) 2567. Retrieved from talonjapan
[3] Tourist Sense. (October 09, 2022). 10 สถานที่เที่ยวชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) และกิจกรรมน่าสนใจต่างๆ. Retrieved from touristsense
