ฉีด Meso Fat สูตรลัดลดไขมัน แบบไม่ต้องออกกำลังกาย

ฉีด Meso Fat หัตถการอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ด้วยผลลัพธ์การสลายไขมัน แบบที่ไม่ต้องออกกำลังกายให้เหนื่อย ก็มีสัดส่วนได้ด้วยการฉีดสลายไขมัน อีกหนึ่งทางลัดของคนอยากหุ่นดี มีสัดส่วนเพราะนอกจากจะไม่ต้องเหนื่อย จากการออกกำลังกายแล้ว ยังได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย ซึ่งการฉีดแฟตสลายไขมัน ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก

รู้จักกับการสลายไขมัน ด้วยการ ฉีด Meso Fat

การ ฉีด Meso Fat หรือ เมโสแฟต [1] เป็นการฉีดตัวยาสลายไขมัน เข้าไปที่ชั้นไขมัน โดยที่ตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมัน และสลายไขมัน โดยขับออกมาทางของเสีย เช่น เหงื่อ ปัสสาวะ หรืออุจจาระ โดยตัวยารุ่นใหม่ๆ นอกจากจะช่วยสลายไขมันได้แล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีก เพื่อฟื้นฟู และป้องกันไม่ให้ผิวชั้นนอก มีการหย่อนคล้อยลงหลังไขมันสลายไป

ซึ่งการฉีด Meso Fat ก็ไม่ได้เป็นการสลายไขมันเพียงอย่างเดียวเสมอไป แต่ในตัวยาบางยี่ห้อ นอกจากจะสลายไขมันสะสมแล้ว ยังช่วยลดการสร้างไขมันขึ้นมาใหม่ และกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นทางเลือกของการสลายไขมัน และเผาผลาญแบบที่ไม่ต้องเหนื่อยออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว

ฉีด Meso Fat ส่วนไหนของร่างกายได้บ้าง ?

• พุง หน้าท้อง ถือว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างลดได้ยาก หากไม่มีการออกกำลังกาย ซึ่งการฉีดแฟต จะช่วยสลายไขมันในส่วนของพุง และหน้าท้องได้ ช่วยให้เห็นสัดส่วนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
• แก้ม เหนียง เป็นส่วนที่นิยมฉีดอย่างมาก เพราะแก้ม และเหนียงเป็นส่วนที่ไม่ว่าจะออกกำลังกายอย่างไร ก็ลดได้ยาก จึงเป็นจุดฮิตของการฉีดสลายไขมัน ช่วยให้ใบหน้าเรียวยิ่งขึ้น โดยทั้งแก้ม และเหนียง เป็นจุดที่นิยมฉีดควบคู่กัน
• ต้นแขน ต้นขา ช่วยสลายไขมัน เพิ่มความเรียว เล็กให้กับต้นแขน และต้นขา ช่วยให้มีความกระชับมากยิ่งขึ้น

ที่มา : Mesofat เมโสแฟต คืออะไร [2]

หมายเหตุ : การฉีด Meso แฟต สามารถฉีดได้ในทุกส่วนของร่างกายที่มีไขมันสะสม ซึ่งในแต่ละส่วนที่ฉีด อาจมีจำนวน หรือปริมาณของตัวยาที่ใช้ไม่เท่ากัน หรือในบางจุดที่ฉีด อาจไม่สามารถสลายทั้งหมดได้ในครั้งเดียว ซึ่งต้องได้รับการประเมินจากแพทย์อีกที

ข้อดี และข้อเสียของ การฉีด Meso Fat

ข้อดีในการฉีด เมโสแฟต

1. ช่วยสลายไขมันสะสมในจุดที่ฉีด เพิ่มความเรียว เล็ก และสัดส่วน
2. ไม่ต้องมีการพักฟื้นหลังการฉีด
3. ไม่เจ็บ หรือเจ็บน้อยเหมือนฉีดยาทั่วไป
4. ใช้เวลาในการทำไม่นาน

ข้อเสียในการฉีด เมโสแฟต

1. ตัวยาบางยี่ห้อ อาจมีอาการบวมประมาณ 1 - 2 วัน เป็นผลข้างเคียงหลังการฉีด
2. ไม่เห็นผลทันทีหลังการฉีด ซึ่งอาจต้องใช้เวลารอประมาณ 2 - 4 อาทิตย์
3. บางจุดที่มีไขมันสะสมเยอะ อาจไม่สลายไปทั้งหมดในครั้งเดียว อาจต้องมีการฉีดซ้ำ
4. มีโอกาสที่ไขมันจะสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งอาจต้องมีการควบคุมอาหารการกินร่วมด้วย เพื่อคงสภาพผลลัพธ์หลังการทำ

ที่มา : ฉีดเมโสแฟต (Meso fat ) คืออะไร [3]

รู้จักกับ ยี่ห้อเมโสแฟต ที่ผ่านการรับรอง อย.ไทย

การ ฉีด Meso Fat ใช่ว่าเป็นเพียงแค่การใช้ตัวยาสลายไขมัน ฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการแล้วจะจบเลย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ของการสลายไขมันด้วยการฉีดแฟต ก็คือตัวยาที่ใช้ฉีด ต้องมีความปลอดภัยมากที่สุด โดยตัวยาสลายไขมัน ที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทย ก็จะมีอยู่หลักๆ 9 ยี่ห้อต่อไปนี้

1. VNS เมโสที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ฉีดแล้วไม่แสบ ไม่บวม ช่วยสลายไขมันหลังการฉีดครั้งแรกได้ถึง 45% เริ่มเห็นผลหลังฉีดใน 7 วัน อยู่ได้นาน 1 - 2 เดือน
2. Filorga เมโสที่มีตัวยาระดับโมเลกุลนาโน ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี ช่วยให้เห็นผลไว ฉีดแล้วไม่บวม ไม่ช้ำ เริ่มเห็นผลใน 5 - 7 วัน อยู่ได้นาน 2 - 3 เดือน
3. V Line ยี่ห้อใหม่จากเกาหลี ที่ช่วยสลายไขมัน เซลล์ลูไลท์ และช่วยยกกระชับผิวไปในตัว เริ่มเห็นผลหลังฉีดใน 1 - 2 อาทิตย์ ผลลัพธ์อยู่ได้ 2 - 3 เดือน
4. Sisi เมโสแฟตที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสลายไขมัน ยกกระชับผิว และช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น หลังฉีดไม่ปวด ไม่แสบ ไม่บวม เริ่มเห็นผลใน 7 - 10 วัน ผลลัพธ์อยู่ได้ 1 - 2 เดือน
5. Phytobella ตัวยาเข้มข้นที่ช่วยสลายไขมันได้เป็นอย่างดี เห็นผลไว ฉีดได้หลายจุด หลังฉีดเริ่มเห็นผลใน 5 - 7 วัน ผลลัพธ์อยู่นาน 1 - 2 เดือน
6. FNC 30 เมโสแฟตที่มีความปลอดภัยสูง ออกฤทธิ์ไว และมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของต่อมน้ำเหลือง หลังฉีดเริ่มเห็นผลลัพธ์ใน 7 - 14 วัน และคงสภาพอยู่ได้นาน 2 - 3 เดือน
7. Noble ตัวยาที่ช่วยสลายไขมัน เผาผลาญ และยกกระชับไปในตัว อีกหนึ่งยี่ห้อยอดนิยม ที่ฉีดแล้วจะเริ่มเห็นผลใน 7 - 10 วัน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 - 3 เดือน
8. BABI Neo One เมโสแฟตที่ช่วยสลายไขมันแบบรวดเร็ว แต่ไม่มีการทำลายคอลลาเจน ช่วยให้ผิวดูกระชับ ได้สัดส่วนมากขึ้น เห็นผลใน 7 วัน ผลลัพธ์อยู่ได้ 2 - 3 เดือน
9. Neobella เป็นตัวยาที่เหมาะกับการใช้ฉีดในบริเวณที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก เพราะตัวยาออกฤทธิ์สลายไขมันโดยตรง หลังฉีดเห็นผลใน 7 - 10 วัน ผลลัพธ์คงอยู่ 2 - 3 เดือน

ที่มา : ฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี [4]

ฉีด Meso Fat แต่ละจุด ใน 1 ครั้ง ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่

1. แก้ม โดยทั่วไปในการฉีดแฟตแก้ม จะใช้ตัวยาในปริมาณ 6 ซีซี หรือข้างละ 3 ซีซี ในรายที่มีไขมันไม่เยอะ แต่ในบางรายที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มเยอะ อาจมีการใช้มากกว่า 20 - 30 ซีซี ใน 1 ครั้ง
2. ต้นแขน โดยทั่วไปใช้ข้างละ 20 - 40 ซีซี เพื่อผลลัพธ์ในการสลายตัวของไขมันที่ดี จึงอาจใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการสะสมของไขมัน และแพทย์ประเมิน
3. ต้นขา โดยทั่วไปใช้ในปริมาณ 40 ซีซี ซึ่งเป็นจุดที่ใหญ่กว่าต้นแขน จึงอาจใช้ในปริมาณที่เยอะกว่า
4. หน้าท้อง สะโพก ใช้ประมาณ 40 - 80 ซีซี จุดนี้เป็นจุดที่มีการสะสมของไขมันมากที่สุด จึงต้องใช้ในปริมาณที่เยอะกว่าจุดอื่นๆ เพื่อให้ตัวยาสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างทั่วถึง

ที่มา : การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร [5]

ข้อควรรู้ ในการฉีดเมโสแฟต เพื่อสลายไขมัน

ในบางจุดที่มีไขมันสะสมเยอะ การฉีด Meso Fat สลายไขมัน อาจไม่สามารถช่วยให้เห็นผลที่ชัดเจนในครั้งเดียว ซึ่งอาจต้องมีการฉีดซ้ำ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด และหลังการฉีดสลายไขมัน ควรมีการดูแล และควบคุมเรื่องอาหาร การกินควบคู่กันด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่อยู่ได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น

สรุป ฉีด Meso Fat การสลายไขมันโดยได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

ฉีด Meso Fat เป็นทางเลือกของการลดไขมันแบบเร่งด่วน และเห็นผลไว โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยออกกำลังกาย แต่ถึงจะเป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันได้อย่างรวดเร็วแล้ว การปรับพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิตก็มีส่วนช่วย ในการคงสภาพผลลัพธ์ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ดังนั้น ควรมีการดูแลตัวเองทั้งจากภายใน และภายนอก เพื่อสุขภาพ และหุ่นที่ได้สัดส่วนที่ดี

อ้างอิง

[1] MICHIKO. (May 12, 2022). ฉีดเมโสแฟตอยู่ได้นานแค่ไหน. Retrieved from michikoclinic

[2] คลินิกหมอพงศ์. (November 18, 2020). Mesofat เมโสแฟต คืออะไร. Retrieved from drpongclinic

[3] WECLINIC. (May 11, 2023). ฉีดเมโสแฟต (Meso fat ) คืออะไร. Retrieved from weclinicbkk

[4] Gangnam. (October 17, 2023). ฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี. Retrieved from gangnamconsult

[5] V Square. (January 2, 2024). การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร. Retrieved from vsquareclinic