จิ่วจ้ายโกว หรือ Jiuzhaigou National Park เป็นอุทยานแห่งชาติ และเขตอนุรักษ์เชิงธรรมชาติ ที่โอบล้อมไปด้วยป่ากว่า 52% ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบ น้ำตก และซิกเนเจอร์คือ การเที่ยว 4 ฤดู แถมยังอยู่ในที่เที่ยวระดับ 5A ของจีน ซึ่งรายละเอียดต่างๆ สำหรับการไปเยือน มีข้อมูลต่อไปนี้
อุทยานแห่งชาติ จิ่วจ้ายโกว ตั้งอยู่ที่ไหน
จิ่วจ้ายโกว ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ของพื้นที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยทางตอนใต้ คือเขตยอดเขา Minshan Garna ส่วนทางเหนือสุด คือจุดชมวิว Huanglong ซึ่งมีต้นกำเนิดน้ำ มาจากแม่น้ำไป๋สุ่ย ที่เป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นน้ำ ของแม่น้ำเจียหลิง
นอกจากนี้ อุทยานยังถือว่า เป็นส่วนหนึ่งในระบบแม่น้ำแยงซี ที่ปกคลุมเนื้อที่ ตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้กว่า 600 ตารางเมตร พร้อมระดับความสูงตั้งแต่ 2,000 ถึง 4,500 เมตร และอยู่ห่างจากเมืองหลวงอย่างเฉิงตู ประมาณ 330 กิโลเมตร และใช้เวลาขับรถจาก อุทยานจางเจียเจี้ย ราวๆ 15 ชั่วโมง
ประวัติ จิ่วจ้ายโกว เขตธรรมชาติ AAAAA
九寨沟 เป็นภาษาจีนกลาง ที่แปลได้ว่า “หุบเขา 9 หมู่บ้าน” ซึ่งตั้งชื่อมาจาก การตั้งหมู่บ้าน 9 แห่ง ของชาวทิเบต โดยมีการอาศัยอยู่ มาจนถึงศตวรรษปี 1975 และเริ่มมีการรุกรานจนถึงปี 1979 ก่อนรัฐบาลจีนจะสั่งห้าม และฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวให้เป็น National Park เมื่อปี 1982
หลังจากนั้นในปี 1984 มีการก่อตั้งสำนักงาน และเปิดบริการเที่ยวชม จิ่วจ้ายโกว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงออกกฎระเบียบต่างๆ แล้วเสร็จในปี 1987 ก่อนที่จะได้รับการขึ้นทะเบียน จากยูเนสโก เมื่อปี 1992 และเป็นเขตสงวนชีวมณฑลโลกเมื่อปี 1997 [1]
ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ อยู่ท่ามกลางหุบเขา และเป็นที่รู้จัก ในชื่อของจุดชมวิว เพราะมีทั้งพืชมากกว่า 2,976 สายพันธุ์ นก 141 สายพันธุ์ และสัตว์มีกระดูกสันหลัง 170 ชนิด รวมถึงสัตว์หายากอีก 17 ชนิด เช่น แพนด้ายักษ์, ลิงสีทอง, ทากินส์ นอกจากนี้ ยังมีทะเลสาบอีกกว่า 100 แห่งให้เที่ยวชม [2]
ข้อมูลเบื้องต้นของ จิ่วจ้ายโกว และการจองตั๋ว
- เวลาทำการ :1 เมษายน ถึง 1 พฤศจิกายน เปิดเวลา 08.00-17.00 น. / 16 พฤศจิกายน ถึง 31 มีนาคม เปิดเวลา 08.30-17.00 น.
- นโยบายสิทธิพิเศษ : เด็กและวัยรุ่นอายุ 7-18 ปี รวมถึงผู้สูงอายุ 60-64 ปี จ่ายค่าธรรมเข้าอุทยานครึ่งเดียว ไม่รวมบริการรถนำเที่ยว / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี สูงไม่เกิน 120 ซม. และผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี เข้าชมอุทยานฟรี ไม่รวมค่ารถบัสนำเที่ยว
ส่วนค่าธรรมเนียมต่างๆ ผู้เที่ยวต้องจองตั๋ว Online อย่างน้อยก่อนไป 1 วัน เนื่องจากทางอุทยาน ไม่มีเคาน์เตอร์จำหน่าย ซึ่งรองรับทั้งสกุลเงิน CNY และมากกว่า 400 USD แต่หากเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีการเก็บภาษีเติม + ค่าบริการอีก 10% ชำระเงินผ่าน Alipay หรือ Wechat
โดยแพคเกจทั่วไปคือ 1 เมษายน ถึง 1 พฤศจิกายน ราคา 220 หยวนต่อคน (1,141 บาท) / 16 พฤศจิกายน ถึง 31 มีนาคม 80 หยวนต่อคน (415 บาท) และค่ารถบัสนำเที่ยว 90 หยวนต่อ (457 บาท) ส่วนรายละเอียดแพคเกจเพิ่มเติม รวมถึงวิธีจองตั๋ว สามารถดูข้อมูลได้ที่ Sichuan Travel Guide
4 ฤดูเที่ยว จิ่วจ้ายโกว แตกต่างกันยังไง
จิ่วจ้ายโกว เที่ยวได้ 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 5-23 องศา เป็นช่วงที่ต้นไม้ ดอกไม้ กลับมาสวยงาม และหากโชคเข้าข้าง ต้นเดือน 3 อาจจะยังมีหิมะหลงเหลืออยู่
ต่อมาคือฤดูร้อน มิถุนายน-สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 13-26 องศา เป็นช่วงสุดสมบูรณ์แบบ ที่ธรรมชาติสวยสดชื่น อีกทั้งยังอากาศอุ่นๆ ไม่ร้อน ไม่เย็น ถัดมาคือฤดูใบไม้ร่วง กันยายน-ตุลาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 10-23 องศา อากาศเย็นสดชื่น ชมใบไม้หลากสี ทั้งส้ม แดง เขียว เหลือง ปกคลุมทั่วอุทยาน
ปิดท้ายด้วยหนาว พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย -3 ถึง -12 องศา ทั้งหุบเขา ทะเลสาบ และบริเวณโดยรอบ จะเต็มไปด้วยหิมะขาว ดูที่ราวกับภาพวาด หรือการ์ตูนชื่อดังอย่าง Frozen
ที่มา: เที่ยวจิ่วจ้ายโกวช่วงไหนดี ? [3]
แนะนำอันซีน จิ่วจ้ายโกว สวยยิ่งกว่านิยาย
หุบเขาซู่เจิง (Shuzheng Valley)
- ทะเลสาบซู่เจิง : ลำธารเล็กๆ หลายลักษณะ ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 5 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย ทะเลสาบสปาร์กกิ้ง, น้ำตกซู่เจิง, ทะเลสาบเสือ และอีกกว่า 19 แห่ง
- ทะเลสาบแรด : มีความยาวราว 2.2 กิโลเมตร และความลึกประมาณ 17 เมตร ที่ปกคลุมบริเวณกว่า 200,000 ตารางเมตร และเชื่อว่าหากเห็นแรดจะโชคดี
น้ำตกนวลอริลัง (Nuorilang Waterfall)
- น้ำตกความสูง 2,400 เมตร กว้าง 300 เมตร ที่เป็นจุดเชื่อมต่อหุบเขาเซซาวา หุบเขาไรซ์ และหุบเขาซู่เจิง มีร้านอาหาร และเป็นจุดศูนย์กลางรถรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว
หุบเขาเซซาวา (Zechawa Valley)
- ทะเลสาบยาว : มีความยาวและกว้างที่สุด อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของหุบเขา จุดเด่นคือภูมิศาสตร์คล้ายตัว S และมีน้ำตลอดทั้งปี ไม่เคยแห้งแล้ง
- ทะเลสาบ 5 สี : แหล่งน้ำขนาดเล็ก ที่มีสีสันงดงาม บางคนเรียกว่า ทะเลสาบหยก เนื่องจากปรากฏทั้งสีน้ำเงินอ่อน สีอะความารีน และสีเขียวมรกต
หุบเขาไรซ์ (Rize Valley)
- ทะเลสาบแพนด้า : มีสีน้ำเงิน-เขียวแปลกตา อยู่ใกล้กับถิ่นอาศัย ของแพนด้ายักษ์ ล้อมรอบด้วยหินสีขาว ดอกไม้ และมีสายน้ำหลากหลายชั้น
- น้ำตกธารไข่มุก : น้ำตกขนาดใหญ่ สูง 40 เมตร กว้าง 310 เมตร ตั้งชื่อมาจาก น้ำที่ไหลลงมากระทบหิน ซึ่งให้ภาพคล้ายกับสีไข่มุก
ที่มา: Jiuzhaigou Scenic Areas [4]
การเดินทางไป จิ่วจ้ายโกว ทำยังไงได้บ้าง
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยัง Jiuzhaigou ปลายทางคือลงที่ สนามบินเฉิงตูซวงหลิว จากนั้นให้ต่อเครื่องไปที่ สนามบินนานาชาติหวงหลง จากนั้นให้นั่งรถบัสซูนา สาย 3 ไปลงป้ายจิ่วจ้ายโกว แล้วนั่งแท็กซี่ไปอีกราว 15 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงครึ่ง ค่ารถโดยสารอยู่ระหว่าง 75-130 หยวนต่อคน (381-660 บาท) [5]
หรือใครอยากนั่งรถไฟจากเฉิงตู ใช้เวลาไม่ต่างกันคือประมาณ 2 ชั่วโมง หรือรถไฟความเร็วสูง 1.5 ชั่วโมง และยังมีรถบัสสายตรง ที่ออกเวลา 09.20 น. / 12.40 น. / 18.10 น. ค่าโดยสาร 48-98 หยวนต่อคน (244-498 บาท) เดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง [6]
สรุป จิ่วจ้ายโกว
จิ่วจ้ายโกว เป็นอุทยานกลางหุบเขา ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสุดพรีเมียม มีพื้นที่กว้างขวาง ไม่ว่าจะชอบน้ำตก หรือทะเลสาบ ก็สามารถไปเยือนได้ทั้งปี อากาศดีทุกฤดูกาล แต่ก่อนเที่ยว! อย่าลืมจองตั๋วออนไลน์ เพราะหากไปถึงแล้วไม่ได้เข้า ต้องน่าเสียดายมากๆ แน่นอน
อ้างอิง
[1] Wikipedia. (March 28, 2024). History. Retrieved from en.wikipedia
[2] Visit Our China. (2006-2024). Introduction to Jiuzhaigou National Park. Retrieved from visitourchina
[3] Sanook. (August 18, 2019). เที่ยวจิ่วจ้ายโกวช่วงไหนดี ?. Retrieved from sanook
[4] China Discovery. (2011-2024). Jiuzhaigou Scenic Areas. Retrieved from chinadiscovery
[5] Explore By Expedia. (October 20, 2018). การเดินทาง. Retrieved from expedia
[6] Travel China Guide. (April 2, 2024). By Train + Bus. Retrieved from travelchinaguide
