ที่มา คาตานะญี่ปุ่น รากลึกแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ชาวมรดกญี่ปุ่น

คาตานะญี่ปุ่น นั้นอยู่คู่กับ ชาวญี่ปุ่น ที่จะมีเหล่าซามูไร ที่นิยมใช้ในสนามรบโดยถือว่าเป็นดาบแห่งเกียรติยศ จนในปัจจุบันคาตานะนั้นถือว่าเป็น โบราณวัตถุ ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งสืบเนื่องมาตั้งแต่ยุคสมัยเก่าๆ ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่นอย่างมากมาย

ความสำคัญของดาบ คาตานะญี่ปุ่น เป็นอย่างไร

เนื่องจาก ในยุคเอโดะ ดาบนั้นเป็นสัญลักษณ์ของ วิถีนักรบ ในลัทธิ บูชิโด โดยในยุคนั้นเหล่านักรบ สามารถมีสิทธิพิเศษอย่างในเรื่องการพกดาบได้ ซึ่งดาบยังเป็นที่เชิดชูเกียรติให้แก่ตระกูลของตนอีกด้วย โดยปัจจุบันนั้นก็ถือว่าเป็นมรดกส่งต่อมาถึงปัจจุบัน

ยุคสมัยการเติบโตของดาบ คาตานะญี่ปุ่น

คาตานะญี่ปุ่น ในสมัยโบราณนั้นจะเริ่มก่อนพุทธศักราช 1443 ถือว่าเป็นยุคของ ดาบอามากูนิ ต่อมาเข้าสู่ในยุคดาบเก่า ราวๆพุทธศักราช 1443-2073 ถือว่าเป็นยุคทองของเหล่าซามูไร ได้กำเนิด ดาบที่มีชื่ออย่าง มาซามูเนะ ที่เป็นมรดกของดาบชั้นยอด

ต่อมาในปีพุทธศักราช2197-2410 เป็นช่วงสมัยของยุค เอโดะ รวมถึงเป็นยุคที่ประเทศญี่ปุ่นได้ทำการปิดประเทศจากคนภายนอก โดยห้ามคนเข้า และคนอยู่ก็ห้ามออกอย่างเด็ดขาด โดยเมื่อผ่านมาได้และ เข้าสู่ในปี 2411 ก็เริ่มจางหายของพิธีกรรมการบูชาดาบไป จนในสงคราม 2 ทำให้ดาบญี่ปุ่นถึงขั้นมัวหมองเลยทีเดียว

แบ่งประเภทของดาบ คาตานะญี่ปุ่น เป็นอย่างไร

ซึ่งคาตานะ นั้นจะแบ่งประเภทตามความยาวของดาบนั้น ซึ่งจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป โดยรวมแล้วจะแบ่งได้ 3 ประเภท ตามดังนี้

1. คาตานะทาจิ: เป็นดาบที่อยู่ในระดับยาว ส่วนมากจะใช้กับทหารม้า มีความโค้งของใบมีดที่ชัดเจน ความยาวอยู่ที่ 70 เซนติเมตร
2. คาตานะวากิซาชิ: อยู่ในระดับกลาง เป็นของเหล่าซามูไร ในความยาวนั้นอยู่ที่ 12-24 นิ้ว เป็นดาบที่สามารถนำติดตัวเข้าเคหสถานของผู้อื่นได้
3. คาตานะทันโต และ ไอกูจิ: เป็นมีดสั้น ความยาวเพียง 1 ศอก ใช้สำหรับพกในเสื้อผ้า ส่วนมากเหล่าผู้หญิงจะพกมีดชนิดนี้ติดตัว

รีวิว พิพิธภัณฑ์ กองทัพญี่ปุ่น จัดแสดงดาบ คาตานะญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์เสรีไทย เป็นพื้นที่จัดแสดงวิธีของชาวญี่ปุ่นในสมัย สงครามมหาเอเชียบูรพา โดยในปี 2484-2488 เป็นกองทัพญี่ปุ่นที่เรืองอำนาจได้เข้ามายึดประเทศไทย โดยต่อมาทางไทยก็ได้ลงนามกับญี่ปุ่นร่วมเป็นพันธมิตร ระหว่างประเทศร่วมกัน

พิพิธภัณฑ์เสรีไทย จัดตั้งอยู่ที่ จังหวัดแพร่ อำเภอเมืองแพร่ ตำบลในเวียง ถนนยันตรกิจโกศล ในโรงแรมภราดร โดยเปิดทำการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 เปิดเกือบทุกวัน แถมยังไม่เก็บค่าเข้าชมอีกด้วย [1]

แนะนำ หมู่บ้านซามูไร มีที่ไหนบ้าง

• หมู่บ้านโนโบริเบ็ทสึ ดาเตะ จิไดมุระ: โดยสามารถเดินทางได้จากสถานี Sapporo สามารถขึ้นได้ที่โดยสารรถไฟ JR Hokuto และลงที่สถานี Noboribetsu โดยราคาเข้าชมเริ่มต้นที่ 600-2,900 เยน
• หมู่บ้านเอโดะวันเดอร์แลนด์ นิกโกเอโดะมุระ:  สามารถนั่งรถโดยสารไปลงที่ป้าย Nikko Edomura ก็จะถึงทันที โดยจะมีค่าบัตรเข้าชมแบบเต็มวันอยู่ที่ 2,400- 4,700 เยน และ เข้าชมเพียงช่วงบ่าย ราคาเริ่มต้นที่ 2,100- 4,100 เยน
• หมู่บ้านโทเอเกียวโต: ค่าเข้าชมเริ่มต้นที่ 1,100-2,200 เยน ซึ่งสามารถเดินทางไปลงที่สถานี Uzumasa Station และก็เดินอีก 1-5 นาที ก็ถึงทันที สามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ jnto

แนะนำ ดาบซามูไร หาซื้อง่าย วิถีแห่งดาบ

ดาบซังไดคิเทสึ

• ราคาเริ่มต้นที่ 2,200 บาท
• น้ำหนักอยู่ที่ 1,000 กรัม
• ความยาวรวมอยู่ที่ 100 เซนติเมตร

ที่มา: ดาบซามูไร ซังไดคิเทสึ [2]

ดาบทหารญี่ปุ่น

• วางจำหน่ายในราคา 5,500 บาท
• เป็นเนื้อโลหะยุคเก่า เป็นดาบยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
• รหัสสินค้า 000083

ที่มา: ดาบทหารญี่ปุ่นเก่ายุคสงครามโลก [3]

สรุป ดาบคาตานะญี่ปุ่น วิถีแห่งซามูไร ดาบแห่งจิตวิญญาณ

เนื่องจาก ดาบคาตานะญี่ปุ่น นั้นเป็นวิถีแห่งชาวญี่ปุ่น ในสมัยยุคทองของซามูไร โดยทางเราก็ได้บอกถึงประเภทของดาบ และ การเติบโตของยุคสมัยของดาบ ซึ่งจะทางเราก็ได้แนะนำถึงพิพิธภัณฑ์ และ ดาบซามูไรที่หาซื้อง่าย ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น

อ้างอิง

[1] museumthailand. (2016-2024). มิวเซียมไทยแลนด์. Retrieved from museumthailand

[2] tikhobby. (2024). ดาบซามูไร ซังไดคิเทสึ. Retrieved from tikhobby

[3] rubbermagnet.tarad. (January 23, 2013). ดาบทหารญี่ปุ่นเก่ายุคสงครามโลก. Retrieved from rubbermagnet.tarad